อายุการใช้งานของครอบฟันอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงประเภทของวัสดุที่ใช้ครอบฟัน การดูแลช่องปาก และนิสัยของแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ยแล้วครอบฟันสามารถอยู่ได้ประมาณ 10 ถึง 20 ปี อย่างไรก็ตาม หากคุณดูแลช่องปากอย่างเหมาะสม อาจอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างเรามีคำตอบมาฝากกัน
ประเภทของวัสดุที่ใช้ครอบฟัน
การครอบฟันสามารถเลือกใช้จากวัสดุได้หลายชนิด ซึ่งที่นิยมมี 3 รูปแบบ
1. ครอบฟันแบบเซรามิกผสมโลหะ (PFM)
2. ครอบฟันแบบเซรามิกล้วน (All Ceramic)
3. ครอบฟันแบบโลหะล้วน (Full Metal)
วัสดุแต่ละชนิดมีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง เช่น ครอบฟันแบบเซรามิกล้วนมีความใส สวยงาม สีเหมือนธรรมชาติ แต่อาจมีแนวโน้มที่จะบิ่นหรือแตกร้าวได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับครอบฟันโลหะหรือครอบฟันผสมโลหะ ที่มีความแข็งแรงทนทาน อย่างไรก็ตาม การครอบฟันโลหะล้วนจะแข็งแรงและทนทานมากที่สุด
การดูแลสุขอนามัยช่องปาก
การรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดีเป็นสิ่งสำคัญซึ่งสามารถยืดอายุการใช้งานของครอบฟันได้ หลังครอบฟันควรทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หลังรับประทานอาหาร ใช้ไหมขัดฟันเพื่อเอาเศษอาหารในบริเวณที่แปรงฟันไม่ถึงออกอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง บ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน และควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
การนอนกัดฟัน
การนอนกัดฟันเป็นประจำอาจส่งผลให้เกิดแรงกดบนบริเวณครอบฟันมากเกินไป นำไปสู่การสึกหรอหรือเกิดความเสียหายของบริเวณครอบฟันได้ หากคุณนอนกัดฟันแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันการกัดฟัน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อครอบฟัน
แนวกัด หรือแนวการสบฟัน
แนวกัด หรือสบฟันผิดปกติหลังทำครอบฟัน อาจทำให้เกิดแรงกดบนบริเวณครอบฟันที่ไม่เท่ากัน ซึ่งอาจส่งผลให้ครอบฟันเสียหาย และเสื่อมการใช้งานก่อนเวลาอันควร หลังทำครอบฟันควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าครอบฟันของคุณพอดีและสบฟันได้พอดี จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
พฤติกรรมการบริโภคอาหาร
พฤติกรรมการบริโภคอาหารบางอย่าง เช่น การเคี้ยวของแข็งหรือการกัดอาหารที่แข็งมาก เพราะอาจทำให้รู้สึกเจ็บและทำให้ที่ครอบฟันแตกหรือเสียหายได้
การตรวจสุขภาพฟันหลังทำครอบฟันเป็นประจำก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าสภาพครอบฟันของคุณมีปัญหาหรือไม่ และการจัดการกับปัญหาที่เกิดในระหว่างครอบฟันตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานได้